รวม 5 จุดเช็คอิน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี

“วันหยุดอยากเที่ยว แต่ไปคนเดียวก็กลัวเหงา” พาคนรักไปเที่ยวให้ภูเขาโอบกอด สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด รับบรรยากาศดีๆ ชาร์จพลังให้ตัวเองและคนที่เรารักกันนะคะ Vsotour ขอแนะนำที่เที่ยว รวม 5 จุดเช็คอินเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี เก็บกระเป๋า ชวนคนที่คุณรักมาฮีลใจ ที่นี่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ที่ที่โอบล้อมด้วยภูเขา ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี และวิวธรรมชาติที่สวยงาม เป็นอีกที่ที่บอกได้เลยว่าคุณจะได้ฟิลเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยค่ะที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ ที่สำคัญยังสามารถไปแบบเช้า เย็นกลับได้เลยนะคะ รับรองว่ามาแล้วคุ้มสุดๆ ค่ะ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หรือเขื่อนสระบุรี “เขื่อนของพ่อ”ตั้งอยู่ใน ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เป็นเขื่อนดินที่สร้างไว้สำหรับเก็บกักน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากและปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูร้อน เป็นแหล่งน้ำเพื่ออุปโภค ของชุมชนในเขตจังหวัด ลพบุรี – สระบุรี เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ชลประทานที่เกิดใหม่ในเขตจังหวัดลพบุรี-สระบุรี เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และเป็นแหล่งประมงน้ำจืดขนาดใหญ่ แล้วยังสามารถช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและน้ำเน่าเสียให้กับกรุงเทพมหานครได้ ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัดคือ จังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรีค่ะ
http://www.dooasia.com/trips/เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-2/
เปิด : ทุกวันเวลา 06.00 -18.00 น.
พิกัด : https://goo.gl/maps/wrirMzjnb9WcK5JN7
จุดแรกสถานีรถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
สถานีรถไฟเขื่อป่านสักชลสิทธิ์ เส้นทางจากรถไฟไปสายเหนือของไทย
ภาพ : https://www.facebook.com/photo/?fbid=685876888123613&set=a.682051011839534
สถานีรถไฟของเขื่อน อยู่บริเวณทางเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สามารถไปถ่ายรูปสวยๆ กันได้เลย นะคะ
ช่วงหน้าหนาว การรถไฟแห่งประเทศไทยยังมีทริปสนุกๆ นั่งรถไฟลอยน้ำ รับลมหนาว ช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนมกราคมของทุกปี เป็นทริปที่ทุกคนรอคอย สายกรุงเทพฯ-ลพบุรี
รายละเอียดการเดินทาง
เวลา 06.00 น. ออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ขบวนจะหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีสามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี ชุมทางแก่งคอย นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟตามสถานีดังกล่าวได้
เวลา 09.25 น. เดินทางถึงจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เวลา 09.50 น. เดินทางถึงสถานีโคกสลุง เพื่อชม ชิม ช้อป สินค้า OTOP
เวลา 10.35 น. เดินทางถึงที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อท่องเที่ยวสถานที่ใกล้เคียง
เวลา 15.30 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยจะหยุดรับส่งที่ชุมทางแก่งคอย สระบุรี อยุธยา รังสิต ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน บางซื่อ และสถานีสามเสน ตามลำดับ
เวลา 18.50 น. ถึงปลายทางสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยสวัสดิภาพ
ขบวนรถไฟลอยน้ำ
จุดถ่ายรูปกลางเขื่อน
จุดที่ 2 อาคารอเนกประสงค์ริมอ่างเก็บน้ำและหอคอยเฉลิมพระเกียรติ พิพิธภัณฑ์ฯ ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
บรรยากาศอ่างเก็บน้ำของเขื่อน มี มีสถานที่ปล่อยปลา ให้อาหารปลาและ จุดนั่งชมวิวริมอ่างเก็บน้ำชิลๆ ส่วนหอคอยเฉลิมพระเกียรติ ภายใน “หอคอยเฉลิมพระเกียรติ” นั้น (ค่าบำรุงสถานที่ คนละ 20บาท) เป็นอาคารสูงทรงหอยคอย ชั้นแรก เป็นร้านจำหน่ายสินค้าของฝาก ของที่ระลึกต่าง ๆ มีทั้งของกินและของใช้ เช่นผลิตภัณฑ์จากเมล็ดทานตะวัน เช่นเมล็ดทานตะวันอบเกลือ อบน้ำผึ้ง หรือเมล็ดทานตะวันอบสมุนไพร คุ้กกี้ทานตะวัน คุ้กกี้องุ่น น้ำผึ้ง ไข่เค็มดินสอพอง ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปทั้งบด อบ แช่อิ่ม ดอง กวน ฯลฯ อีกทั้งเครื่องดื่มที่ทำจากผลไม้ต่าง ๆ เช่นไวน์ผลไม้ น้ำผลไม้ เป็นต้น หลังจากนั้นขึ้นไปที่ด้านบน เพื่อชมทัศนียภาพเขื่อนป่าสัก ฯ จากด้านบน และมีการตกแต่งด้วยภาพเขียนตามผนังของชั้นต่าง ๆ คุณสามารถขึ้นไปยังชั้นบนสุดของหอคอยเฉลิมพระเกียรติเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองลพบุรี ได้รอบทิศแบบ 360 องศา
อาคารอเนกประสงค์ริมอ่างเก็บน้ำและหอคอยเฉลิมพระเกียรติ
จุดให้อาหารปลาและปล่อยปลา
ภาพ http://www.nextsteptv.com/khongdee/หอคอยเฉลิมพระเกียรติเข/
สินค้าจำหน่ายสินค้า Otop และของฝาก ของที่ระลึก
จุดที่ 3 พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก แหล่งบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
“พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก” ที่เปิดให้เข้าชมได้ฟรี ภายในพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสักจัดแสดงรายละเอียด และจำลองวิถีชีวิตของชาวไทยเบิ้งที่อาศัยอยู่บริเวณลุ่มน้ำป่าสักมาตั้งแต่สมัยอดีต นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโบราณวัตถุ จำพวกข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมไปถึงพืชพันธุ์ไม้ในแถบลุ่มแม่น้ำป่าสักแห่งนี้ด้วย
การจัดแสดงแบ่งเป็น 6 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 อาคารเก้าเหลี่ยม จัดแสดงเรื่องการชลประทานในประเทศไทย และพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 กับการชลประทาน
ส่วนที่ 2 จัดแสดงเรื่อง "ย้อนรอยอารยธรรม" แสดงหลักฐานการตั้งถิ่นฐานยุคต่างๆ ที่กรมศิลปากรได้สำรวจขุดพบในบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เช่น โครงกระดูก เครื่องมือหิน เครื่องมือโลหะ เครื่องประดับ และภาชนะต่างๆ ตั้งแต่อดีตของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยทวารวดี และต่อมาถึงสมัยอยุธยา เป็นต้น
ส่วนที่ 3 จัดแสดงเรื่อง "วัฒนธรรมท้องถิ่น" นำเสนอวิถีชีวิตของมนุษย์รุ่นสุดท้ายที่เข้ามาอาศัยในพื้นที่เก็บกักน้ำของโครงการฯ ได้แก่ ชาวไทยเบิ้ง ซึ่งเป็นกลุ่มคนอพยพมาจากเมืองเวียงจันทน์ประเทศลาว โดยได้นำวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ของชาวไทยเบิ้งมาจัดแสดง เช่น ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี และการดำรงชีวิต
ส่วนที่ 4 จัดแสดงเรื่อง "ภูมิศาสตร์" นำเสนอความรู้เกี่ยวกับภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และแหล่งน้ำที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำป่าสัก
ส่วนที่ 5 จัดแสดงเรื่อง "ทรัพยากรธรรมชาติ" เช่น ป่าไม้และสัตว์ป่าที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ในอดีต โดยจำลองต้นไม้และพืชพรรณที่เคยมีอยู่ในพื้นที่มาจัดแสดง เช่น สักทอง ประดู่ป่า ไผ่ และต้นค้อ
ส่วนที่ 6 จัดแสดงเรื่อง "ป่าสักวันนี้" ห้องจัดแสดง 'สไลด์มัลติวิชั่น' นำเสนอข้อมูลเนื้อหาของ 5 ส่วนจัดแสดง นำมาสรุปใส่แสง สี เสียง และก่อนเข้าห้องแสดงจะมีป้ายเสียง เมื่อเดินผ่านเข้าไปใกล้ๆ จะมีเสียงอธิบายถึงทัศนคติของบุคคลหลากหลายอาชีพที่มีต่อโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ข้อมูลจากและภาพ : https://www.museumthailand.com/th/museum/Pasak-Museum
จุดที่ 4 ชมวัดในเขื่อนและศาสนสถานใกล้เขื่อน
วัดหนองบัวใหญ่ ที่โผล่ขึ้นจากน้ำ ในช่วงหน้าแล้งน้ำลดทำให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นซากสิ่งปลูกสร้างของวัดหนองบัวใหญ่และชุมชนเก่าแก่ซึ่งตั้งมานานก่อนการสร้างเขื่อน โผล่ขึ้นมาบนพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ สามารถเดินเที่ยวชมได้อย่างใกล้ชิด
ภาพจาก : https://workpointtoday.com/pa-sak-jolasid-dam/
ภาพจาก : https://www.sanook.com/travel/1416457/gallery/2550357/
อีกที่ศาสนสถานสำคัญพระเทพรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์หรือหลวงปู่ใหญ่ป่าสัก
เป็นพระพุทธรูปที่มีความสง่างามมาก ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี บริเวณท้ายสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เดินทางโดยใช้บริการรถลากชมสันเขื่อนฯ มาสักการะพระเทพรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์ พระพุทธรูปมีขนาดหน้าตักกว้าง ๙ เมตร ความสูง ๑๔ เมตร สร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๐ เชื่อกันว่าหากใครได้มีโอกาสมากราบไหว้สักการะขอพรแล้ว จะเป็นสิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว มีความโชคดีมีชัยในชีวิต คิดทำการสิ่งใดก็ประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน
รถลากของเขื่อนมีจุดบริการบริเวณหน้าหอคอยเฉลิมพระเกียรติ
พระเทพรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์หรือหลวงปู่ใหญ่ป่าสัก
เปิดบริการ : ทุกวัน ถึง 18.00 น.
ภาพและข้อมูล :https://www.wongnai.com/r/1380288uE
ท้ายสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ “นิวแลนด์มาร์ค”
จุดสุดท้ายของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์เหมือนอยู่ต่างประแทศ มีนักท่องเที่ยวหลายคนเข้ามาตั้งชื่อแลนด์มาร์คนี้ ว่า เหมือนประเทศนิวซีแลนด์ บ้างก็บอกเหมือนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นสถานที่ติดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เที่ยวได้ตอนที่น้ำลดจึงจะเห็นทุ่งหญ้าแบบนี้ แนะนำให้มาช่วงเย็น บรรยากาศดีมากกก เหมาะที่จะได้มาพักผ่อนมองฝูงแพะ ฝูงแกะ ฝูงวัว กับสายลมและความโล่งโปร่งของสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดีเลย สามารถไปให้อาหารแพะ แถมยังได้ถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลางฝูงแพะ ด้านหลังจะเป็นวิวภูเขากลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่สวยงาม ในช่วงพระอาทิตย์ตกจะสามารถชมวิวดวงอาทิตย์ตกท่ามกลางภูเขาอีกด้วยค่ะ
ขับรถเข้าไปถึงที่ สามารถกางเต้น นั่งชอลปิกนิก ถ่ายรูปเก๋ๆ ได้เลยค่ะ
ยามเย็นพบกับฝูงแพะ ฝูงแกะ ฝูงวัว ให้อาหารได้ด้วยค่ะ
ชมพระอาทิตย์ตกดิน
ภาพและข้อมูล : https://www.thairath.co.th/news/local/localbusiness/2697282?gallery_id=2
พิกัด บ้านท่าฤทธิ์ ต.วังม่วง อ.วังม่วง จ.สระบุรี
อ้อหากอยากชมทุ่งทานตะวันระหว่างทางไปเขื่อนป่าสักแนะนำมาเที่ยวช่วงหน้าหนาวในเดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์นะคะ ที่สำคัญมาให้ลงจอดถ่ายรูปสวยๆได้อีกด้วยค่ะ
ทุ่งทานตะวันบานเขาจีนแล ลพบุรี
ภาพจาก Facebook : ทุ่งทานตะวันบานเขาจีนแล ลพบุรี
เป็นยังไงกันบ้างคะ จุดเช็คอินที่เราพาคุณมาเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ 5 จุดนี้ มาที่นี่ได้ชาร์จพลัง สูดอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มปอด เที่ยวเขื่อนของพ่อ ไหว้พระ ทำบุญ ชิลๆ กับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ มีของฝากของที่ระลึกติดมือ รับรองว่าคุณจะประทับใจอย่างแน่นอนค่ะ ที่เที่ยวลพบุรียังไม่หมดแค่นี้นะคะ ยังมีที่กิน ที่เที่ยว ที่พักผ่อน วัดสวยๆ ที่จะมาแนะนำกันอีกค่ะ จะบอกว่าใครที่ได้ไปสัมผัสที่เที่ยวที่อื่นมา หากอยากแชร์เรื่องราวของคุณ สามารถเข้ามาเขียนแชร์ประสบการณ์แบบพวกเราได้ที่ Vsotour.com สมัครสมาชิกได้ที่นี่ Vsotour/Register ติดตามข่าวสาร ภาพท่องเที่ยวได้ที่ Facebook / Youtube / Tiktok แล้วพบกันกับเรื่องราวดีๆ เป็นกำลังใจให้นักเขียน Krataekanchana ด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลและภาพ
https://travel.trueid.net/detail/AmmjrBDE1jA ,https://www.phatthananikhom.go.th/travel/detail/3/data.html, http://www.walkwaygo.com/thailand/%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2/?amp=1 , เฟสบุ๊คเพื่อเดินทาง